เป็นเกมอาร์เคดแนวสยองขวัญในรูปแบบเกมยิงที่ไม่ต้องเดินที่พัฒนาโดยเซกา อินเตอร์แอ็กทีฟ และเป็นเกมลำดับที่ห้าในซีรีส์เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด หลังจากการเปิดตัวเดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด 4 ในปี ค.ศ. 2005 เกมนี้มีกำหนดการทดสอบตลาดในวันที่ 19–21 มกราคม ค.ศ. 2018 ในอากิฮาบาระ ประเทศญี่ปุ่น ต่อมา เกมนี้เปิดตัวที่ทุกศูนย์อาร์เคดของญี่ปุ่นในเดือนกันยายน ค.ศ. 2018 และเปิดตัวในสหรัฐผ่านสถานที่ของเดฟแอนด์บัสเตอส์ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2018 ในปี ค.ศ. 2006 ซึ่งเป็นสามปีหลังจากเหตุการณ์เดอะเฮาส์ออฟเดอะเดด 4 เคต กรีน ร่วมมือกับไรอัน เทย์เลอร์ (เจมส์ ตัวละครเอกภาค 4 เป็นพี่ชายของไรอัน เทย์เลอร์ และที่ปรึกษาผู้ล่วงลับของเคต กรีน) ในภารกิจลับในงานเลี้ยงอาหารค่ำภายที่คฤหาสน์สแครโครแมนเนอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของรัฐนิรนามในภูมิภาคนิวอิงแลนด์ของสหรัฐ ผู้จัดงานได้ปลดปล่อยกองทัพของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ของเขาเมื่อมารับประทานอาหารค่ำ เมื่อประจักษ์ชัดถึงภัยคุกคามของโลก เคตและไรอันจึงเริ่มภารกิจเพื่อหยุดยั้งผู้จัดงานและการจลาจลที่เขาได้เริ่มขึ้น
ขณะที่พวกเขาเดินผ่านคฤหาสน์ พวกเขาพบเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของดีบีอาร์ คอร์ปอเรชัน ได้แก่ ดร.รอย คิวเรียน, คาเลบ โกลด์แมน และชายลึกลับที่เคตระบุว่าเป็นธอร์นฮาร์ต ซึ่งเป็นลูกหลานของสมาชิกผู้ก่อตั้งบริษัท และผู้จัดงานของคฤหาสน์สแครโครแมนเนอร์ ในระหว่างการสำรวจคฤหาสน์ พวกเขาต่อสู้กับมนุษย์กลายพันธุ์ขนาดยักษ์ เช่น สิ่งมีชีวิตที่ฟื้นคืนชีพจากอุบัติการณ์คฤหาสน์คิวเรียนในปี ค.ศ. 1998, แชเรียต และแฮงด์แมน เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตที่คล้ายปลาหมึกตัวใหม่ที่
หลังจากหลบหนีคฤหาสน์ที่พังทลายได้ เคตและไรอันต่อสู้ฝ่าฝูงซอมบีไปยังโบสถ์ใกล้ ๆ ซึ่งพวกเขาได้พบกับธอร์นฮาร์ต ที่ถูกเปิดเผยว่ายังมีชีวิตอยู่ เขาเปิดเผยว่าตัวเองเป็นผู้บงการเหตุการณ์ของเกม และบอกกับสองเจ้าหน้าที่ว่าจุดประสงค์ของบริษัทคือ ล้าง โลกแห่งสถานะปัจจุบัน และ ก่อร่างใหม่ ในแบบของพวกเขาเอง จากนั้นเขาก็สร้างผลงานชิ้นเอกของเขาอย่างเดอะมูน ซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดใหญ่มหึมาที่มีลักษณะคล้ายต้นไม้ที่มีความสามารถคล้ายกับเดอะซันจากเกมภาคสามและเดอะเวิลด์จากเกมภาคสี่ อีกทั้งมีความสามารถในการควบคุมลม พวกเขาต่อสู้กับมัน ในขณะที่มันค่อย ๆ กลายเป็นรูปร่างของมนุษย์และขนาดเท่าตึก 20 ชั้น จากนั้น ไรอันก็พยายามที่จะฆ่ามันด้วยความพยายามอย่างไม่คิดชีวิตโดยเอาท่อนเหล็กแทงทะลุหัว ในตอนแรกสิ่งนี้พิสูจน์ได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จ แต่แล้วสายฟ้าก็ฟาดเข้ากับท่อนเหล็กที่เสียบทะลุศีรษะของเดอะมูน จึงทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าดูดและฆ่ามันได้สำเร็จ
สำนักงานใหญ่ของเซก้าอยู่ที่เมืองโอตะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ส่วนสำนักงานใหญ่ของเซก้าอเมริกาอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เซก้ายุโรปมีสำนักงานใหญ่ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรบริษัทเซก้าก่อตั้งในปี ค.ศ. 1940 โดยในตอนแรกใช้ชื่อบริษัทว่า แสตนดาร์ดเกมส์(ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น เซอร์วิสเกมส์) ก่อตั้งในเกาะฮาวายประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายในการผลิตเครื่องเล่นแบบหยอดเหรียญสำหรับผ่อนคลายขายให้กองทัพนำไปตั้งตามฐานทัพเพื่อให้ทหารได้หย่อนใจ ต่อมาบริษัทได้ย้ายที่ตั้งบริษัทไปตั้งที่ญี่ปุ่นในปี 1951 และจดทะเบียนในชื่อ SErvice GAmes of Japan ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ เซก้า
ในปี 1954 นักธุรกิจชาวอเมริกันผู้หนึ่งได้ก่อตั้งบริษัท รอซเซน เอนเตอไพรซ์ ขึ้นในญี่ปุ่น โดยเป็นบริษัทส่งออกสินค้าทางศิลปะ ต่อมาทางบริษัทได้นำเข้าตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความนิยมอย่างคาดไม่ถึง ตู้ถ่ายรูปแบบยอดเหรียญกลายเป็นกระแสที่นิยมอย่าสูงในญี่ปุ่น บริษัทรอซเซนจึงตัดสินใจขยายกิจการโดยเริ่มนำเข้าตู้เกมแบบหยอดเหรียญเข้ามาทำตลาดด้วย
ในปี 1965 บริษัทเซอร์วิสเกมและบริษัทรอซเซนเอนเตอไพรซ์ก็ได้ควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน กลายเป็นบริษัทใหม่ที่ชื่อ เซก้า ภายในปีเดียวกัน เซก้าได้นำเกมจำลองการขับเรือดำน้ำออกขาย ซึ่งกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกในปี 1969 บริษัท กัลฟ์+เวสต์เทิร์น ได้เข้าซื้อบริษัทเซก้าได้สำเร็จ แต่ได้อนุญาตให้นายรอซเซนCEOคนเก่าของเซก้ายังคงตำแหน่งCEOของเซก้าต่อไป ภายใต้การบริหารของนายรอซเซน เซก้ากลายเป็นผู้ผลิตเกมรายใหญ่ ผลิตเกมที่ได้รับความนิยมมากมาย ในปี 1983 ตลาดวิดีโอเกมซบเซาอย่างหนัก หรือที่เรียกกันว่า ยุคล่มสลายของวิดีโอเกม เซก้าได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนในที่สุดบริษัทกัลฟ์+เวสต์เทิร์นจึงได้ขายทรัพย์สินของเซก้าที่ตนถือครองอยู่ให้กับบริษัทบอลลีซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเกมพินบอลชั้นนำ ส่วนทรัพย์สินของเซก้าในญี่ปุ่น นายรอซเซนอดีตCEOได้ร่วมทุนกับนายฮายาโอะ นาคายาม่า เข้าซื้อทรัพย์สินของเซก้าในญี่ปุ่น นายนาคายาม่าได้เป็นCEOคนใหม่ของเซก้า ส่วนนายรอซเซนได้เป็นหัวหน้าสาขาของเซก้าในอเมริกา ในปี 1984 กลุ่มบริษัท CSK ได้เข้าซื้อบริษัทเซก้า และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เซก้า เอนเตอไพรซ์ จำกัด โดยมีสำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่น มีนายอิซาโอะ โอคาวะเป็นประธานบริษัท และมีการนำหุ้นของบริษัทเซก้าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 1986 ในปี 1986 ตลาดวิดีโอเกมในอเมริกาได้เริ่มฟื้นตัวขึ้น เซก้าจึงฉวยจังหวะนี้ก่อตั้งบริษัท เซก้า ออฟ อเมริกา ขึ้นมา และได้ผลิตเครื่องเกมคอนโซลเครื่องแรกของเซก้าที่ชื่อมาสเตอร์ซิสเต็มขึ้นมาแข่งกับแฟมิคอมของบริษัทนินเทนโด ถึงแม้เซก้าจะแพ้ให้กับนินเทนโดในการขายมาสเตอร์ซิสเต็มในอเมริกาเหนือ แต่เซก้าสามารถครอบครองตลาดยุโรปและบราซิลได้สำเร็จ
ภายใต้ชื่อรหัสพัฒนาว่า เรฟโวลูชัน (Revolution) ซึ่งเป็นรุ่นที่จะออกมาถัดจากเครื่อง เกมคิวบ์ โดยที่จอยแพดที่ใช้ควบคุม จะเป็นรูปทรงเหมือน รีโมตโทรทัศน์ และเกมที่ใช้เล่นก็จะใช้การควบคุม โดยการเคลื่อนไหวจอยแพดนี้ ไปในทิศทางต่าง ๆ อีกด้วย เครื่องเล่นวีสามารถเล่นเกมของ เกมคิวบ์ได้ทันที และยังสามารถเล่นเกมของแฟมิคอม ซูเปอร์แฟมิคอม และ นินเทนโด 64 ได้ผ่านระบบเกมที่สามารถ ดาวน์โหลดผ่านอินเทอร์เน็ตเครื่องเล่นวี เริ่มถูกคิดค้นในปี พ.ศ. 2544 ซึ่งเป็นเวลาที่ เครื่องเล่นเกมคิวบ์เปิดตัว จากการสัมภาษณ์ของ นายชิเงรุ มิยาโมโตะ เกี่ยวกับแนวคิดในการมุ่งเน้น ไปที่วิธีใหม่ ๆ สำหรับการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่น เป็นที่ยอมรับกันว่า พลังประมวลผลของเครื่องเล่นเกม ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ของเครื่องเล่นเกม เราไม่สามารถมีเครื่องทรงพลังหลาย ๆ เครื่อง แข่งขันกันเอง มันก็เหมือนกับมีแต่ ไดโนเสาร์ดุร้าย ที่ต่อสู้กันเอง จนสูญพันธุ์ไปหมด