เครื่องรีดผ้าไอนำ้ จะทำด้วยทองเหลืองหล่อฝาด้านบนมีบานพับด้านท้ายเตา(เปิดฝาบนหงายขึ้น) ด้านปลาย มีสลักงอๆ ที่ใช้แรงโน้มถ่วงเป็นตัวทำให้ล็อก จะเปิดได้โดยหาฉนวนความร้อนเขี่ยเบาๆก็จะเปิดออกได้โดยง่าย ในการใช้งานนานๆ อาจจะต้องเติมถ่าน หรือ เขี่ยถ่านให้ขี้เถ้าล่วงลงไป จะต้องเปิดฝาเพื่อการดังกล่าว ในเตาที่ด้านล่างจะมีตะแกรง เหล็กหล่อสูงราว 1ซม. จากพื้นและขอบล่างจะมีรูเล็กๆให้อากาศเข้ามาช่วยการเผาไหม้แบบช้าๆ การใช้งานจะติดถ่านจากเตาถ่านธรรมดาก่อน เมื่อเริ่มติดดีแล้วก็จะคีบมาใส่เตา กลบด้วยขี้เถ้าพอประมาณ เพื่อไม่ให้ร้อนเกินไป (เหมือนการปิ้งกล้วย) มิฉะนั้นผ้าอาจไหม้ได้โดยง่าย ต้องใช้ความชำนาญในการใช้พอสมควรว่า จะคุมความร้อนเย็นของเตาให้เหมาะสมกับชนิดของผ้าที่จะทำการรีด ปรับโดยเติมขี้เถ้าหรือเขี่ยออกให้ถ่านร้อนขึ้น (อากาศเพิ่มมากขึ้น)
เตารีดที่นิยมใช้ในปัจจุบัน หรือที่ภาษาอักฤษเรียกว่า iron คือ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกำจัดรอยยับบนเสื้อผ้าโดยใช้ความร้อน, รูปร่างเป็นอุปกรณ์ที่มีฐานล่างเป็นโลหะเรียบรูปสามเหลี่ยม และด้านบนมีมือจับ สามารถหยิบยกได้ ให้ความร้อนด้วยไฟฟ้าและใช้สำหรับรีดวัสดุสิ่งทอให้เรียบ ปัจจุบันมีการนำเอาสารเคลือบเทฟลอนมาเคลือบแผ่นฐาน เพื่อเพิ่มความลื่นและใช้งานได้สะดวก ผู้ประดิษฐ์เตารีดไฟฟ้าเป็นคนแรก (โรเบิร์ต แฮร์ ชาวอเมริกัน ในปี พ.ศ.2324) โดยเค้ามีความคิดว่า การใสเสื้อผ้าที่เรียบไม่ยับเป็นส่วนช่วยในการเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดี เตารีดไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทให้ความร้อนที่อำนวยความสะดวกในปัจจุบัน แบ่งได้เป็น 3 ประเภท เตารีดไฟฟ้าชนิดแห้ง เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ใช้รีดผ้าให้เรียบ มีสองแบบคือ 1.ชนิดเบา และ 2.มีน้ำหนัก เตารีดชนิดเบา เป็นเตารีดที่มีน้ำหนักเบา (1.5 ปอนด์)โครงสร้างโดยทั่วไปเป็นพลาสติก(ทนความร้อนและไม่ลามไฟ) แผ่นความร้อนจะบาง มีทั้งหน้าธรรมดาและเคลือบเทฟล่อน(ช่วยให้รีดลื่น ) กำลังไฟ1,000วัตต์ เหมาะสำหรับผ้าเนื้อบาง ที่ไม่ต้องการแรงกดทับ เช่น ไนล่อน ชีฟอง โพลี่ ผ้าไหม เป็นต้น แต่ถ้าจะรีดผ้าชนิดอื่นที่มีเนื้อหนาก็ต้องออกแรงกดเตารีดมากขึ้นผ้าถึงจะเรียบ
โดยทั่วไปเตารีดแบบนี้จะมีลูกบิดปรับความร้อนอยู่ตรงกลาง(ดูรูปประกอบ) ตัวเทอร์โมสตัทจะเป็นแบบชุดประกอบด้วยตัวควบคุมอุณหภูมิและตัวตัดไฟเมื่อความร้อนสูงเกิน มีสองรุ่นด้วยกันคือ ปรับแต่งอุณหภูมิไม่ได้ กับปรับแต่งอุณหภูมิได้ ตัวที่ปรับได้จะมีสกรูเล็กๆอยู่กลางแกนหมุน มีประโยชน์คือปรับเพิ่มความร้อนให้สูงขึ้นกรณีที่เตาความร้อนไม่พอ ตัวเทอร์โมสตัทแบบนี้เมื่อใช้ไปนานๆจะฝืดจนถึงขั้นหมุนไม่ได้ ถ้าเกิดอาการแบบนี้ต้องเปลี่ยนเตาใหม่ จะเปลี่ยนเฉพาะตัวเทอร์โมสตัทอย่างเดียวไม่ได้ เพราะว่าขั้วไฟบางขั้วจะถูกเชื่อมติดถาวร ไม่ได้ใช้ขั้วเสียบ แต่ถ้าเป็นช่างสามารถยืดอายุการใช้งานออกไปได้ด้วยการล้างแกนหมุนทองเหลืองด้วยน้ำยาอเนกประสงค์ แต่ก็ได้ไม่นานประมาณหนึ่งเดือน(ใช้งานทุกวัน วันละ6ชั่วโมง) เตารีดชนิดมีน้ำหนัก เป็นเตารีดที่มีน้ำหนักกดทับ ตั้งแต่ 2.0 , 3.5 ,และ 4.5 ปอนด์ โครงสร้าง ตัวเตาจะเป็นโลหะเพื่อความแข็งแรง และด้ามจับจะเป็นพลาสติก(ทนความร้อนและไม่ลามไฟ) แผ่นความร้อนหนาขึ้น หน้าเตามีทั้งธรรมดาและเคลือบเทฟล่อน กำลังไฟ 1,000วัตต์
โดยทั่วไปเตารีดแบบนี้จะมีลูกบิดปรับอุณหภูมิอยู่ที่ด้ามจับ(ดูรูปประกอบ) ตัวเทอร์โมสตัทเป็นแบบแหนบ สามารถปรับแต่งความร้อนได้ กรณีที่ความร้อนของเตาไม่พอ ให้สังเกตที่กลางเตารีด รุ่นเก่าจะเป็นฝาครอบโลหะที่บอกตำแหน่งการปรับความร้อน ให้เปิดฝาครอบออก ปรับด้วยไขควงก้านยาว หมุนซ้ายเพิ่ม หมุนขวาลด ให้หมุนทีละครึ่งรอบแล้วทดลองรีดดู ถ้าเป็นรุ่นใหม่จะเป็นป้ายแถบกาวให้เปิดด้านซ้ายแล้วปรับดวามร้อนตามแบบข้างต้น ตัวเทอร์โมสตัทแบบนี้จะมีปัญหาที่หน้าสัมผัส เวลาที่หน้าสัมผัสติดหรือจากกันมักจะมีการสปาร์กเกิดขึ้นเพราะมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านสูง ทำให้เกิดความร้อนและขี้เกลือ หน้าสัมผัสจะเป็นข้าวตังทำให้เตาร้อนบ้างไม่ร้อนบ้าง บางครั้งก็ร้อนเกินขนาดเพราะหน้าสัมผัสไม่ยอมจาก เพราะละลายติดกัน แบบนี้มีผลเสียต่อการรีดผ้า ผ้าเสียหายจากความร้อนเกินขนาดได้ ถ้าเกิดอาการแบบนี้บ่อยๆ ขอแนะนำให้เปลี่ยนเตารีดได้เลย ไม่ต้องเสียดาย
ทำไมถึงต้องปรับแต่งเทอร์โมสตัท การปรับแต่งเทอร์โมสตัทก็เพื่อเพิ่มความร้อนเตารีดให้สูงขึ้น ในกรณีที่เตารีดร้อนไม่พอสำหรับการรีดผ้าฝ้าย ผ้าcotton100 ผ้าลินิน ผ้าพวกนี้ต้องพรมน้ำมากและใช้เตาร้อน ถึงจะเรียบ (ไม่ได้หมายรวมถึงการลงแป้ง) บางครั้งเตารีดที่เราซื้อมาใหม่รีดผ้าเหล่านี้ไม่เรียบ ทั้งๆที่หมุนความร้อนจนสุดแล้ว การปรับเทอร์โมสตัทต้องทำด้วยความระมัดระวัง หมุนปรับทีละน้อย และอย่าปรับมากจนเกินไป เช่นปรับครั้งละ หนึ่งในสี่ของรอบ แล้วทดลองรีดดู และไม่ควรปรับเกิน 1.5รอบ ข้อควรระวังหลังการเพิ่มความร้อนให้เตารีด ความร้อนของเตาจะสูงขึ้น การหมุนลูกบิดปรับความร้อนจะต้องลดลงจากเดิม หากหมุนเท่าเดิมอาจทำให้ผ้าเสียหายได้ เนื่องจากความร้อนที่เพิ่มขึ้น ให้ทดลองรีดจากความร้อนที่ต่ำก่อนแล้วค่อยหมุนเพิ่ม เตารีดไฟฟ้าแบบไอน้ำ เป็นเตารีดที่สามารถสร้างไอน้ำด้วยตัวเอง เพื่อช่วยให้การรีดผ้าง่ายขึ้น โดยไอน้ำจะทำให้ใยผ้าคลายตัว เตารีดไฟฟ้าแบบไอน้ำ เป็นเตารีดชนิดเบาที่มีช่องบรรจุน้ำในตัวเพื่อใช้สำหรับการสร้างไอน้ำ สามารถสร้างไอน้ำต่อเนื่องได้หลายระดับ และสร้างไอน้ำแบบเทอร์โบได้ พร้อมทั้งการพรมน้ำระหว่างรีดได้ เป็นเตารีดอีกแบบหนึ่งที่ช่วยให้งานรีดผ้าง่ายขึ้น เตารีดไอน้ำแบบนี้เหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือน ควรอ่านคำแนะนำการใช้งานก่อนใช้ หลักการทำงานของเตารีดชนิดนี้คือการหยดน้ำลงบนแผ่นความร้อนโดยตรงเพื่อให้เกิดไอน้ำ แล้วพ่นไอน้ำออกทางหน้าเตา ไอน้ำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการปรับระดับไอน้ำ สำหรับพลังเทอร์โบเป็นการฉีดละอองน้ำไปที่แผ่นความร้อนเพื่อให้เกิดไอน้ำที่มีแรงดันเพิ่มขึ้น เตารีดจะต้องร้อน แล้วต้องเว้นระยะเพื่อให้แผ่นความร้อน ร้อนพอที่จะเผาน้ำให้เกิดไอน้ำ ข้อด้อยของเตารีดชนิดนี้คือเมื่อใช้งานไปนานๆ น้ำที่หยดลงแผ่นความร้อนจะทำให้เกิดคราบตะกรัน พอกหนาขึ้นจนทำให้หน้าเตาด้านในไม่ร้อนพอที่จะสร้างไอน้ำ กลายเป็นหยดน้ำที่ปนด้วยตะกรันออกมาทางหน้าเตา ดังนั้นจึงไม่เหมาะสำหรับร้านซักรีด